เป็นไดอารี่ที่ย้อนหลังค่อนข้างนานเลย หลังๆนี่งานยุ่งพัลวันมาก กว่าจะได้มานั่งคัด+process รูปนี่ใช้เวลากว่าเขียนอีกนะ แต่มันเป็นไดอารี่เราเองยังไงก็อยากเก็บไว้ดู ช่วงนี้จะเป็นเรื่องราวของเรื่องสวยๆงามๆมากหน่อย
เพราะกลับไทยครั้งล่าสุด เพิ่งไปเรียนแต่งหน้ามา ถ้าจะมาเรียนที่นี่ (ญี่ปุ่น) ก็คงใช้งบมากอยู่ มีโอกาสตอนอยู่ไทยก็เลยไปเรียนพื้นฐานมาบ้าง
บวกกับครูที่สอนก็เป็นรุ่นพี่ที่รู้จักกันมาก่อนด้วย เรียนไปหัวเราะไป ครูพี่แพตอารมณ์ดีสุดๆ
นักเรียนของครูพี่แพตคงจะรู้กันดี …
Blog สองตอนก่อนที่เกี่ยวกับ [Beautydiary] เหมือนกันอ่านได้ที่นี่นะ
[Beautydiary] ①redlovetree in RED…Vow&Chut’ Big Day
[Beautydiary] ②redlovetree in BLUE … Jimmy&May
ชอบจัง กระจกในห้องน้ำเนี่ย ทุกทีเลย
หลังจากติดต่อหาพี่แพตพูดคุยเรื่องการเรียนแต่งหน้า ครูพี่แพตสอนฟูลคอร์สแบบมืออาชีพมากค่ะ
IMC (International Makeup Center)
คือสอนตั้งแต่พื้นฐานไปจนสามารถเปลี่ยนไปทำเป็นอาชีพได้เลย
ช่วงที่แคทไปหาครูแพตเป็นคอร์สซึ่งต้องใช้เวลาเรียนประมาณ 3เดือน คอร์สเต็มๆ 200ชั่วโมง
*ทำหน้าเจ๋อๆ แล้วบอกว่าหนูอยู่ไทยแค่อีกไม่กี่วันเองค่าา*
ครูแพตเลยเสนอว่า งั้นหนูมาเรียนพื้นฐาน แล้วส่งการบ้านครูทาง skype ทางไหนอะไรก็ว่ากันไป
แต่ครูก็บอกว่ายังไงก็ต้องมาเรียนที่โรงเรียนให้ได้สัก 2-3 ครั้งนะ
ช่างพอดีพอเหมาะวันที่ไปเรียนแต่งหน้าเสร็จแล้ว เย็นนั้นมีไปงาน CLUB21 ด้วย
เรียนแล้วสวย สวยแล้วไปงานต่อได้อีก ดีจังเลย ~
Patcharaporn Srichuntip : Head Teacher of IMC Thailand
ครูพี่แพตของเรา
วันแรกก็ไปตัวปลิวเลยค่ะ เพราะไม่มีอุปกรณ์อะไรเป็นของตัวเอง นอกจากแป้งตลับกับที่ปัดแก้ม มีเท่านี้จริงๆ
ไปถึงครูแพตก็จัดแจงรื้อของในโกดัง เอ้ยยย อุปกรณ์การเรียนมาให้ชุดใหญ่เลย
ขอบอกว่าความรู้สึกของคนแต่งหน้าไม่เป็น ไม่เคยจับแปรงนู่นนี่นั่น
เห็นอุปกรณ์การเรียนที่ครูบอกว่าต้องใช้นะคะ แล้ว … ช็อค!! ค่ะครู
*นึกในใจ กระเป๋าน้องเอิงช่างแต่งหน้าวันนั้นเป็นแบบนั้นเพราะแบบนี้นี่เอง*
ครูเอามาวางตรงหน้า กองๆ เอาหนูจัดอุปกรณ์เข้าที่ค่ะ
… จัดยังไงแวร๊ ~ เพียบเต็มหน้าไปหมดเลย แล้วอะไรเป็นอะไร อะไรเรียกว่าอะไร มันคืออะไร !!
ส่วนหนึ่งเท่านั้น …
*~มีหน้าเดียว ทำไมต้องมีแปรงเยอะขนาดนี้ด้วย~ *
บอกแล้วว่ามาจาก “ศูนย์” เลยความรู้ไม่มีครูเหนื่อยหน่อยละ
ครูเริ่มจากกดปุ่มกระจกเลื่อนออกมาจากโต๊ะ
(แค่นี้เรายังตกใจเลย -“- ก็มันเป็นโต๊ะเรียบๆ กดปุ่มแล้วกระจกโผล่มากลางโต๊ะเลยอ่ะ)
แล้วครูก็บอกว่า อ่านเอกสารการเรียนไปก่อนละกัน เด๋วจัดที่ให้พร้อมเรียน
ฮืออออ ครูให้หนูเรียนอะไร หนูมาเรียนแต่งหน้าไม่ได้มาเรียนวิชาผิวหนังอ่าา
ครูแพตเห็นทำหน้า งง ก็เลยบอกว่า หนูต้องเรียนรู้พื้นผิวของตัวเอง ของคนอื่นและของคนแต่ละชาติ เพื่อเปรียบเทียบสีผิว ซึ่งจะมีผลกับการเลือกรองพื้น เลือกสีที่จะลงบนหน้าน่ะค่ะ
จริงๆมีเอกสารประกอบการเรียนอีก (ยังไม่ได้อ่านเลยค้าบบบ)
จัดโต๊ะเสร็จแล้ว เรียนกันเลยดีกว่า
บอกครู เด๋วค่ะเด๋วๆ มันต้อง before & after ค่ะครู หนูขอเวลาถ่ายรูปแป๊บ
ครูจัดการเอาโลชั่นมาให้ล้างหน้าโดยพลัน ต้องหน้าจืดสนิทมันถึงจะเรียก before ของแท้ ~
โฮ … ไม่น่าถ่ายเก็บไว้เลย หน้าจืด คิ้วหาย อายนะเนี่ย
เริ่มจากผสมรองพื้นเองค่ะ
ไม่ใช้รองพื้นสำเร็จ คลาสสิคมาก (นึกในใจจะเสียเวลาทำไมคะ มีขายเยอะแยะไป)
เหมือนครูรู้เสมอสิ่งที่เราสงสัยในใจ
“ผสมเองน่ะดีแล้วค่ะ จะได้สีที่ใกล้เคียงกับตัวเราเองที่สุด เพราะที่ขายสำเร็จก็ไม่มีสีผิวของเราเป๊ะๆหรอก เราก็ต้องซื้อไว้สักสองเบอร์มาผสมเองนะคะ เช่น หนูไปทะเลมาวันรุ่งขึ้นผิวคล้ำ หนูก็ต้องเปลี่ยนสีรองพื้นแล้วนะคะ
อีกอย่าง การเรียนรู้พื้นฐานของสีเป็นเรื่องจำเป็น หนูจำวงสีร้อน-สีเย็นได้มั้ย”
?!?!?! ครูพูดถึงเรื่องอะไรอีกแล้วค๊าาาา ?!?!?!
ครูเอาสีงิ้วมาให้หนูผสม เป็นสีที่คนเล่นงิ้วใช้แต่งหน้าจริงๆค่ะ
เพราะสีจะติดทนแล้วคุณภาพก็ดีกว่า บีบแม่สีออกมาแล้วให้มาผสมหาสีใกล้เคียงกับผิวตัวเอง
โดยเทียบกับตรงข้อมือตัวเอง
แล้วก็เป็นช่วงที่ตั้งใจเรียน แบบ งง งง เลยไม่ได้ถ่ายรูป
พอโดนเขียนตา มือก็ซนจะหยิบกล้องมาถ่ายรูป … ก็ทำไม่ได้
ตาเตอเลอะเทอะไปหมด เลยงดถ่ายรูประหว่างเรียนกันไป
ระหว่างนี้ครูก็สอนถึงประวัติศาสตร์การแต่งหน้าของคนละยุคสมัยด้วยนะ
อย่างหนังเรื่อง Les Misérables การแต่งหน้าเป็นแบบคิว ตา ดำๆดูเปรอะๆ แก้มส้มๆ
และปากจุ๋มจิ๋มทาปากนิดเดียวไม่เต็มปาก
เมื่อก่อนสีมีนิดเดียว ทาแค่นั้นก็ว่าสวยแล้ว
ปากเราทาปากแบบปี 2013 แล้วนะไม่ใช่แบบสาวในเรื่อง Les Misérables
ครูถามว่างานอะไร ไปชุดนี้เลยมั้ย เลยเลือกสีให้แบบนี้
ทำผมให้ใหม่ด้วย สวยไปงานเลยยยย คริๆ
Blog มันยาวมากเลย ยังมีต่อของวันที่สองที่ไปเรียนมาอีกนะ
วันแรกเท่านี้ก่อนดีกว่า … ตอนหน้า [Beautydiary] ตอนสี่แล้ว