หลังจากที่ดูข่าวเกี่ยวกับมลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้นกับกรุงปักกิ่งแล้ว ทำให้นึกถึงภาวะของ “ทรายเหลือง” หรือ “พายุทรายเหลือง” ที่เคยเขียนอธิบายไปเมื่อก่อนหน้านี้
Link ย้อนหลังอ่าน : พายุทรายเหลือง-黄砂 (Dust and sandstorm:DSS)
วันนี้ภาวะวิกฤติของกรุงปักกิ่งนั้น เข้าขั้นสาหัสและรุณแรงมาก ถ้าดูจากภาพถ่ายทางดาวเทียม กรุงปักกิ่งจะเต็มไปด้วยฝุ่นและควัน ที่ไม่สามารถมองทะลุลงไปเห็นเมืองได้
สาเหตุก็เกิดจาก มลภาวะเป็นพิษที่เกิดจากโรงงานปล่อยควันพิษ ไอเสียจากรถยนต์ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากโรงงาน
ภาพแสดงการคาดคะเนปริมาณฝุ่นละอองที่เป็นพิษในอากาศจากมหาวิทยาลัยคิวชู
สีแดงคือมีปริมาณมากและอากาศเป็นพิษ
ความน่าเป็นห่วงนอกจากประเทศจีนที่ได้รับผลกระทบแล้วนั้น การเกิดมลภาวะแบบนี้ทำให้มีผลกระทบกับประเทศใกล้เคียงอย่างประเทศญี่ปุ่นด้วย ซึ่งก็มีการวิจัยและศึกษาปริมาณฝุ่นละอองในอากาศอยู่อย่างต่อเนื่อง
ขนาดของฝุ่นละอองนั้นเล็กมาก เล็กระดับที่หน้ากากอนามัยทั่วไปไม่สามารถกรองฝุ่นละอองจากอากาศได้
ภาพเปรียบเทียบขนาดของฝุ่นละอองขนาด 2.5PM อันกลางคือเกสรดอกไม้ ขวามือคือเส้นผมของมนุษย์
องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้แจ้งว่าปริมาณฝุ่นละอองในอากาศของกรุงปักกิ่งนั้นมากกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 36เท่า เข้าขั้นวิกฤตแล้ว
ปริมาณของฝุ่นละอองมีการปลิวพัดมาถึงประเทศญี่ปุ่นทุกปี ซึ่งมีในปริมาณที่มากน้อยต่างกัน
แต่ปีนี้ภาวะวิกฤตของกรุงปักกิ่งน่าเป็นห่วงมาก ประเทศญี่ปุ่นจึงมีการเก็บตัวอย่างจากหิมะ มาทำการละลายและวัดค่า ดูฝุ่นละอองที่ตกค้างในอากาศ เก็บตัวอย่างจาก “snow monsters” (คือ http://ja.wikipedia.org/wiki/霧氷)
ภาพของสิ่งที่ตกตะกอนแล้ว เป็นแบบนี้
ความน่ากังวลคือ ถ้าฝุ่นละอองเหล่านั้นเข้ามายังประเทศญี่ปุ่นในปริมาณที่มาก ประเทศญี่ปุ่นต้องเตรียมการ จัดการและป้องกันอย่างไร
ต่อไปคนปักกิ่ง หรือ คนญี่ปุ่น อาจจะต้องใส่หน้ากากแบบนี้เพื่อป้องกันฝุ่นละออง
การเกิดมลพิษทางอากาศไม่ใช่มีผลต่อร่างกายสุขภาพเท่านั้นนะคะ ยังส่งผลถึงระดับประเทศอีกด้วย
ความเสียหายทางเศรษกิจต่างๆอีกมากมาย
ย้อนอ่านจากเรื่องของ พายุทรายเหลืองได้ที่นี่