ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2557 เป็นต้นไปภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในประเทศญี่ปุ่นจะเปลี่ยนเป็น 8% (จากเดิมคือ 5%) การเพิ่มภาษีครั้งนี้นั้นเป็นการเพิ่มภาษีแบบค่อยเป็นค่อยไป หลังจากนี้มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเป็น 10% อีกไม่นานนี้
การเปลี่ยนแปลงภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่สองในรอบ 17ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 1997 เดือนเมษายนเช่นเดียวกัน ได้มีการปรับภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)จากเดิม 3% เป็น 5% และใช้มาจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2557
การปรับเปลี่ยนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จะมีผลกับทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นสาธารณูปโภค การคมนาคม หรือสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ
วันนี้เราผ่านไปที่สถานีรถไฟฟ้าทั้ง JR (EAST) และ Tokyo Metro จึงอยากนำมาให้ดูกันว่ามีการปรับเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง
JR (East) เดิม ค่าเดินทางระยะ 130เยน (ขั้นต่ำสุด) ปรับเป็น 140เยน สำหรับการซื้อตั๋วที่หน้าตู้
แต่จะเพิ่มจาก 130เยนเป็น 133เยน ถ้าคุณใช้ IC Card (บัตรเติมเงินแบบ Suica หรือ Pasmo
Tokyo Metro เดิม ค่าเดินทางระยะ 160เยน (ขั้นต่ำสุด) ปรับเป็น 170เยน สำหรับการซื้อตั๋วที่หน้าตู้
แต่จะเพิ่มจาก 160เยนเป็น 165เยน ถ้าคุณใช้ IC Card (บัตรเติมเงินแบบ Suica หรือ Pasmo และอื่นๆ)
Tobu Line เดิม ค่าเดินทางระยะ 140เยน (ขั้นต่ำสุด) ปรับเป็น 150เยน สำหรับการซื้อตั๋วที่หน้าตู้
แต่จะเพิ่มจาก 140เยนเป็น 144เยน ถ้าคุณใช้ IC Card (บัตรเติมเงินแบบ Suica หรือ Pasmo และอื่นๆ)
Tsukuba Express
(ขั้นต่ำสุด) ปรับเป็น 290เยน สำหรับการซื้อตั๋วที่หน้าตู้
ถ้าคุณใช้ IC Card (บัตรเติมเงินแบบ Suica หรือ Pasmo และอื่นๆ) ปรับขึ้นเป็น 288เยน
ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า การใช้ IC Card (Suica หรือ Pasmo และบัตรอื่นๆ) จะคิดภาษีมูลค่าเพิ่มตามจริง
ส่วนการซื้อตั๋วที่หน้าตู้นั้น จะใช้การปัดเศษคิดเต็มหลัก 10 คือปัดขึ้นให้ถ้วน
ข้อแนะนำเวลานี้คือ ทุกคนควรมีบัตร IC Card ไว้ใช้ค่ะ ราคาจะถูกกว่า แค่ครั้งเดียวอาจจะไม่เท่าไหร่ แต่ขึ้นและลงหลายครั้ง เป็นจำนวนเงินที่เยอะค่ะ