ก่อนหน้านี้เราได้รับการติดต่อมาจากสถานีโทรทัศน์ NHK เพื่อให้ไปร่วมแสดงความคิดเห็นในรายการพิเศษของ NHK ที่ออกอากาศทุกวันเสาร์รายการ 日本新生 ครั้งนี้เป็นหัวข้อ 「日本革命」หรือ ปฏิวัติการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ออกอากาศเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2556
มีแขกรับเชิญทั้งหมด 27ท่าน เป็นต่างชาติ 10คนที่มาจาก 10ประเทศซึ่งแต่ละคน เก่งมากกก เป็นเจ้าของกิจการที่ญี่ปุ่นก็มี เป็นอาจารย์ก็มี แล้วก็เก่งภาษาญี่ปุ่นมากๆ (ยกเว้นเรานี่แหละ)
รายการอัดเทปวันเสาร์ก่อนหน้า อัดเต็มๆ เบรกสั้นๆแค่ 10~15นาทีเท่านั้น ในระหว่างการถ่ายทำพวกเรามีการพูดคุยถกเถียงกันเยอะมาก และเราก็ได้พูดมากกว่าที่ตัดออกอากาศมาแค่เรื่อง อิจิโกะ หรือ สตอเบอรี่ …. T~T
แต่ก็เข้าใจว่า อัดมา 6ชั่วโมงออกอากาศแค่หนึ่งชั่วโมง แล้วยังมี VTR ต่างๆอีกมากทำให้เหลือแค่นั้น
สิ่งที่เราได้เสนอความเห็นไปคือ เรื่องของป้ายต่างๆ เมนูอาหาร หรือการแนะสถานที่ควรเพิ่มภาษาอังกฤษให้มากขึ้น
และ wifi ที่ควรจัดการให้มีมากกว่านี้ รวมถึงความน่าสนใจของญี่ปุ่น ความประทับที่มีต่อญี่ปุ่น เช่นสี่ฤดูของญี่ปุ่นที่เหมาะกับการท่องเที่ยวตอลดปีและการทดลอง การได้ทำกิจกรรมหลายๆอย่างด้วยตัวเอง เช่นการเก็บสตอเบอรี่ หรือ อย่างที่คนอิหร่านได้พูดถึงการเรียนนินจา …
สถิติจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าประเทศนั้นๆมากที่สุดในโลก เรียงลำดับกันไปจากลำดับที่หนึ่ง ฝรั่งเศส อเมริกา จีน สเปนและอิตาลี
ทั้งๆที่ประเทศญี่ปุ่นมีอะไรน่าสนใจมากมาย และดูเหมือนจะเป็นประเทศยอดนิยมที่ชาวต่างชาติเลือกมาท่องเที่ยว
แต่ดูจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าประเทศแล้ว ญี่ปุ่นตกไปอยู่ถึงอันดับที่ 33 เลยทีเดียว
และนี่จึงเป็นที่มาว่า “ทำไมญี่ปุ่นเกิดปัญหาอะไรและอะไรที่ญี่ปุ่นควรจะปรับเปลี่ยน”
มรดกโลกก็มีมากมายจากการจัดอันดับโลก ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีมรดกโลกมาที่สุดเป็นอันดับที่ 13 และในภูมิภาคเอเชียก็เป็นอันดับที่ 3 (ทั้งๆที่ประเทศนี้ไม่ได้กว้างใหญ่มากนัก)
แม้แต่นักท่องเที่ยวคนไทยเอง ที่ยังต้องขอวีซ่าเพื่อการท่องเที่ยว ยังต้องรอวีซ่าถึงสิบชั่วโมง
ประเทศญี่ปุ่นน่าเที่ยว น่ามามากขนาดนี้ แล้วอะไรที่เป็นปัญหา …
จากภาพด้านล่างเป็นการเปรียบเทียบให้ดูว่าอุตสาหกรรมที่ทำรายได้ได้มากรองจากอุตสาหกรรมรถยนต์คือ การท่องเที่ยว ตัวเลขใกล้เคียงกันมาก
หลายๆคนให้ความเห็นไว้มากมาย ทั้งที่ตัดออกอากาศและไม่มีในหนึ่งชั่วโมง
-หนึ่งคือ เรื่องของค่าเงินเยน ที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นประเทศที่ค่าครองชีพสูงมาก ของใช้ของกินค่าเดินทางแทบทุกอย่าง แพง ทำให้นักท่องเที่ยวสู้ไม่ไหวหรือเปล่า
-ประเทศญี่ปุ่นไกล ดูจากลำดับต้นๆประเทศที่มีนักท่องเที่ยวไปมาก ส่วนใหญ่อยู่ในแถบยุโรบ เพราะการเดินทางสะดวก ใกล้และเชื่อมถึงกันทำให้นักท่องเที่ยวไหลเข้าออกง่าย แต่ … ก็มีคนบอกว่า ดูจีน เกาหลี ไทย ฮ่องกง ก็ติดอันดับต้นๆ ถ้ามาถึงเกาหลีได้ มาถึงจีนได้ ญี่ปุ่นไม่ไกลเลย
-ในการจัดอันดับเฉพาะเอเชียเอง ญี่ปุ่นก็ตกไปอยู่อันดับที่ 8 เลยด้วย (ซึ่งไทยเราอยู่อันดับที่ 4)
แล้วอะไรที่เป็นปัญหา อะไรที่เราควรเสนอแนะ
ของดีแต่ละเมืองของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร ของดีประจำท้องถิ่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญที่จะช่วยดันให้ธุรกิจท่องเที่ยวประสบความสำเร็จได้ การทำให้สินค้านั้นๆมีเอกลักษณ์พิเศษส่วนตัว เช่น เบนโตะ เอกิเบนโตะ (อาหารกล่องต่างๆ อาหารกล่องที่ขายตามสถานี) เบนโตะที่ทำเป็นพิเศษเฉพาะที่นั่นๆ สร้างแบรนด์ได้ทำให้คนอยากไปซื้อกิน ก็เกิดการเดินทางและเป็นการกระจายการท่องเที่ยว
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจล่มสลาย เนื่องจากการแข่งขันกันเองของภาคธุรกิจโรงแรมและร้านค้า เช่น
ภายในโรงแรมหรือเรียวกัง มีสินค้าครบทุกอย่าง ร้านค้า ร้านข้าว ร้านขายของที่ระลึก เป็นการดึงลูกค้าให้อยู่แต่ในโรงแรมไม่เดินออกมาทานอาหารข้างนอก หรือ ไม่ออกไปซื้อสินค้าด้านนอก ทำให้ร้านค้าด้านนอกต้องปิดตัวลงไป เป็นต้น
การแย่งลูกค้ากันเอง อันนี้มีคนแนะนำว่าควรเปลี่ยนเป็นรวมตัวกันจัดตั้งองค์กรการท่องเที่ยว เพื่อการกระจายลูกค้า ให้มีการแนะนำต่อๆกันไปให้ไปใช้บริการโรงแรมอื่นบ้าง หรือส่งลูกค้าให้กัน
การท่องเที่ยวแบบที่ลูกค้าได้ร่วมลงมือทำหรือได้ทดลองทำด้วยตัวเอง อย่างที่เราพูดถึงเรื่องการเก็บสตอเบอรี่ ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่
การท่องเที่ยวของจังหวัดมิเอะ ก็เริ่มใช้การท่องเที่ยวนินจามาโปรโมตการท่องเที่ยว เพื่อดึงลูกค้า
เพราะจังหวัดมิเอะ อยู่ค่อนข้างไกลจาก Golden Tour หรือเส้นทางที่ได้รับความนิยม จากโอซาก้าไปโตเกียว หรือจากโตเกียวไปทางคันไซ การเดินทางไปยังจังหวัดมิเอะ ใช้เวลาถึง 2-3ชั่วโมง
เค้าต้องหาจุดขายเพื่อดึงลูกค้ามาให้ได้ ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์นินจาค่ะและชาวต่างชาติเกือบทุกคน ต้องรู้จักนินจาอยู่แล้ว อะไรที่จะทำให้ทัวร์นินจาขายได้ นั่นคือการบ้านที่เค้าได้ทำมา และค่อนข้างไปได้ด้วยดี (VTR ในรายการเป็นกลุ่มคนไทยที่ได้ลองไปทัวร์นินจา)
สถานที่ท่องเที่ยวที่ชาวต่างชาตินิยมไปเที่ยวมากที่สุด 5อันดับ
เรียงจากอันดับ 5 ไปจนถึงอันดับที่ 2
และรูปสุดท้ายเป็นอันดับที่ 1
อันดับสุดท้าย คนต่างชาติไปชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เพื่อต้องการศึกษาเรื่องราวของสงครามที่น่าสลดใจ ความเสียหายที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้น และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก
แต่ในทางกลับกัน คนญี่ปุ่นกลับให้ความเห็นว่า “เป็นสถานที่ที่เค้าไม่อยากไป … เพราะ เป็นภาพของความสูญเสีย สะเทือนใจและไม่อยากให้อยู่ในความทรงจำอีก”
นี่คือสิ่งที่ต่างค่ะ … และเป็นที่มาของหัวข้อที่เราได้มาแลกเปลี่ยนความคิดกัน
คนต่างชาติคิดอย่างไรกับประเทศญี่ปุ่น ชอบหรือไม่ชอบ อยากให้มีหรือญี่ปุ่นยังมีอะไรที่ควรปรับเปลี่ยน
เพราะบางอย่าง เค้าก็มองตัวเองไม่ออก
ทิ้งท้ายกับคำศัพท์ คันจิตัวนี้ 観光 จากความหมายเดิมในภาษาจีนเอง คือการแนะนำแสงสว่างให้ผู้อื่นได้มอง
หมายถึงการแนะนำสิ่งดีๆของตัวเองที่มีอยู่ให้กับผู้อื่นได้เห็น ต่อไปนี้คำนี้จะเป็นเรื่องที่ปัจจุบันจะให้ความสำคัญและสนใจกันให้มากขึ้น …