เกี่ยวกับเรื่องราวของ Tokyo Sky Tree เขียนไว้หลากหลาย เยอะแยะมากมาย ตามเนื้อหาเพิ่มเติมแนะนำให้อ่านจากเวบหลัก www.japaijapan.com ได้เลยนะจ๊ะ ว่าหอคอยที่ได้ลงกินเนสบุ๊คและถูกบันทึกว่าเป็น “หอคอยที่สูงที่สุดในโลก” นั้นมีอะไรน่าสนใจบ้าง
ภาพเก่าตั้งแต่ยังสร้างไม่เสร็จ Sky Tree อยู่ไม่ไกลจากบ้าน ขับรถไปก็ 15นาที นั่งรถไฟก็ 9นาที (อะไรจะละเอียดขนาดนั้น)
เรียกได้ว่าเห็น Sky Tree ตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย #ไม่ใช่ละ เปรียบเทียบได้คล้ายๆกัน ตั้งแต่เริ่มล้อมรั้ว ค่อยๆเป็นรูปเป็นร่าง ครั้งที่เกิดแผ่นดินไหวใหญ่และสึนามิ ก็เคยถอนหายใจเพราะกังวล แต่เธอก็ปลอดภัยดี ช่างน่าเป็นห่วง …
ตั้งแต่ปีที่แล้ว 2011 ที่เริ่มถอดเอาคานต่างๆออกและเริ่มทดลองเปิดไฟ ถ้ามีโอกาสก็จะไปถ่ายรูปเก็บไว้
เช่นรูปนี้ Sky Tree เปิดไฟสีขาวเมื่อคืนวันคริสมาสและปีใหม่ เพียงแค่สามวัน
และเมื่อถึงวันเปิดให้จองตั๋วเข้าชม Sky Tree ต้องส่งชื่อไป เลือกวันและเวลา เพื่อรอจับฉลาก ว่าจะได้ขึ้นไปบนหอคอยนั้นหรือไม่
*ตั๋วของ SKy Tree จะไม่มีขายนอกจากต้องจองและจับฉลากจนถึงวันที่ 11กรกฎาคม
และสิ่งที่รอคอยเมื่อเช้าวันนึงมี e-mail ส่งกลับมา “คุณได้รับตั๋วในวันที่ 17 มิถุนายน เวลา 17:00 ให้ไปรับตั๋วได้ที่ชั้น 4 ของ Sky Tree”
… เป็นเรื่องที่น่าดีใจ และ เป็นความโชคดี ที่ปกติไม่ค่อยจะเกิดกับเราสักเท่าไหร่
การเดินผ่านไปมาเคาเตอร์ชั้น4 เรียกว่านับครั้งไม่ถ้วนแต่ไม่โอกาสได้เข้าไปสักที
วันนี้ 17 มิถุนายน เราเข้าไปกันเถอะ พร้อมบัตรเครดิตที่ตัดเงินเราไปแล้วนั่นเอง เอาไปแสดงความเป็นเจ้าของตั๋วซะ
เคาเตอร์มีเยอะ ทำให้การออกตั๋วเป็นไปอย่างรวดเร็ว รอคิวไม่นาน
ไม่นานเราก็ได้ตั๋วมาสองใบ สีท้องฟ้าต่างกันเป็นช่วงฟ้ากลางวันและฟ้าช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน
ภายในตัวอาคารเปิดไฟตามไฟของหอคอยในคืนนั้น (จึงเดาได้ว่า คืนนี้หอคอยจะเป็นสีม่วง)
ไปรอคิวขึ้นลิฟท์ด้านใน เคยไปต่อคิวที่โตเกียวดิสนีย์แลนด์มั้ย ที่ดูข้างนอกไม่มีคนต่อคิวแต่พอเดินเข้าไปข้างใน อุทานในใจว่า “โดนหลอกให้มาต่อคิวแล้วไงชั้น”
เป็นแบบนั้นหละ คนรอคิวเยอะมากแต่ก็มีลิฟท์อยู่หลายตัว และ….เร็วมาก
จับเวลาจากชั้น 4 ขึ้นไปที่จุดชมวิวชั้นที่หนึ่ง ที่ความสูง 350เมตร ใช้เวลาแค่ 50.3 วินาที!!
เมื่อลิฟท์เปิดก็จะได้ยินเสียง Ho~ wow~ Oh~ ตลอดหละ ยืนถ่ายรูปหน้าลิฟท์จะตกใจทุกครั้งที่ลิฟท์เปิด รวมถึงตอนที่ลิฟท์เราเปิดด้วย เราก็ โฮ้~
ถึงแล้วที่ความสูง 350เมตร วิ่งให้รอบก่อนสำรวจเส้นทาง (ทำไม)
หาที่เหมาะกับการถ่ายรูป ทิศไหนดี ปรึกษากันแต่ดูเหมือนเราจะช่วยอะไรไม่ได้
@Mahalarp มาไม่ครบหนินะ ถ้าครบก็คล้องคอแทนพระเครื่องได้
เป็นกล้องที่จะมาเก็บภาพมุมสูงกัน
มุมสูงที่เห็น คือบ้านเมืองของโตเกียวในส่วนที่น่าจะวางผังเมืองมาดี เรียงกันเป็นบล๊อกๆเลย
ถือว่าเป็นวันที่โชคดีเข้าข้าง เพราะก่อนหน้านี้ฝนตกและช่วงเช้าก็ยังมืดครึ้ม ตอนเย็นที่เราขึ้นมาฟ้าเปิด มองเห็นพระอาทิตย์ตกดินได้ แต่เมฆก็เยอะหน่อย วันถัดไปก็พายุหมายเลข 4 เข้าเลย
ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันหน่อย ก่อนจะไปวิ่งเล่นที่ชั้น 345m.และ340m.
ปล่อยน้องเป็ดชมวิวดูพระอาทิตย์ตกดินไป สบายๆ
สูงไม่เท่าไหร่ …
พระอาทิตย์เริ่มหาย …
ถ่ายคลิปไว้หน่อยดีกว่า ยืนรอช่วงในเมืองเปิดไฟมันจะค่อยๆติดทีละบ้านทีละตึกและจะสว่างไปทั้งเมือง
พอฟ้าเริ่มมืดเราก็เริ่มหิว ยืนรอถ่ายคลิปท้องร้อง คร่อกๆ ~
ก็ได้คลิปมาในมุมเอียงๆ ติดกระจกเว้าๆ จากมือถือมา *อยากไปแก้ตัวใหม่ ฝากไว้ก่อน*
วิ่งเล่นกันอยู่ใน Sky Tree กันนานพอสมควร ก่อนกลับลงมาก็ต้องซื้อของที่ระลึกกันซะหน่อย
เราได้ Medal key-ring กับ Stamp ของ Tokyo Sky Tree ทั้งสองอย่างมีขายเฉพาะที่นี่เท่านั้น
Stamp ลายน่ารักดี ใช้ได้จริงนะ แต่น่ารักและเป็นที่ระลึกแบบนี้คงไม่กล้าใช้
ส่วนรูปสวยๆ ของวันนี้ถ้าอยากชมกันก็ กดไปที่นี่ได้เลยจ้า
[Photo] Tokyo Sky Tree 350m-The highest tower in the world
คืนวันที่หอคอยเป็นสีม่วงชื่อ มิยาบิ …
Pingback: *กาแฟในร้านขายดอกไม้* branche-fleur : Flower space and Cafe | redlovetree